งานวิจัยที่มีผู้เข้าดูมากที่สุด

ชื่อเรื่อง ประเภทงานวิจัย ปีที่พิมพ์ อ่าน รายละเอียด
การเปรียบเทียบผลของการใช้กรดซิตริก (Citric Acid) และสารละลาย เกลือแกง (Sodium chloride) ที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาสีน้าตาลในแอปเปิลตัดแต่ง งานวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร 2555
93051
อิทธิพลของการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยคอกต่อการให้ผลผลิตของดาวเรืองพันธุ์ ทองเฉลิม 5011 งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
93012
การใช้นํ้าหมักชีวภาพต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผักกาดหอมเรดโอ๊คที่ปลูก ในระบบไฮโดรโปนิกส์ งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
92395

งานวิจัยที่มีผู้เข้าดาวน์โหลดมากที่สุด

ชื่อเรื่อง ประเภทงานวิจัย ปีที่พิมพ์ ดาวน์โหลด รายละเอียด
การเปรียบเทียบผลของการใช้กรดซิตริก (Citric Acid) และสารละลาย เกลือแกง (Sodium chloride) ที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาสีน้าตาลในแอปเปิลตัดแต่ง งานวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร 2555
356
อิทธิพลของการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยคอกต่อการให้ผลผลิตของดาวเรืองพันธุ์ ทองเฉลิม 5011 งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
570
การใช้นํ้าหมักชีวภาพต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผักกาดหอมเรดโอ๊คที่ปลูก ในระบบไฮโดรโปนิกส์ งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
345

อิทธิพลของ Heiter และ 8 – Hydroxyquinoline Sulfate ต่อการยืดอายุการปักแจกันของเบญจมาศ
ผู้วิจัย สมฤทัย สายลุน | ปีที่พิมพ์ 2556 | อ่าน 89441 ครั้ง ดาวน์โหลด 95 ครั้ง

อิทธิพลของ Heiter และ 8 – Hydroxyquinoline  Sulfate ต่อการยืดอายุการปักแจกันของเบญจมาศ

Effect of Heiter and 8 – Hydroxyquinoline Sulfate on Vase Life  of

ChrysanthemumFlowers ( Dendranthemum  grandifflora )

โดย                       นางสาวสมฤทัย  สายลุน

ชื่อปริญญา           วิทยาศาสตรบัณฑิต  ( เกษตรศาสตร์)

ปีการศึกษา         2556

อาจารย์ที่ปรึกษา  อาจารย์ ดร. สุจิตรา  สืบนุการณ์

ศึกษาอิทธิพลของ Heiter และ 8 – Hydroxyquinoline  Sulfate ต่อการยืดอายุการปักแจกันของเบญจมาศ โดยวางแผนการทดลองแบบ 4 X 7 Factorial  in  Completely Randomized  Design มี 2 ปัจจัย คือ 1. ความเข้มข้นของ Heiter มี 4 ระดับ ได้แก่ a1 = 0 %, a2 = 1 %,  a3= 2 %และa4 = 3% และ 2. ความเข้มข้นของ 8 – hydroxyquinoline sulfate   มี 7 ระดับ ได้แก่ b1 = 0 ppm  b2  = 150 ppm b3 = 200 ppm b4 = 250 ppm  b5 = 300 ppm                 b6 = 350 ppm และ b7= 400 ppm รวมทั้งหมด 28 กลุ่มทดลอง ผลการทดลองพบว่า  การใช้น้ำกลั่นหรือการปักแจกันในสารละลาย 8 – HQS 150 ppm เพียงอย่างเดียวสามารถยืดอายุการปักแจกันเฉลี่ยของดอกเบญจมาศได้นาน 8 วัน และมีค่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ แสดงว่าการใช้สารละลายไฮเตอร์ ร่วมกับ 8 – HQS ไม่สามารถยืดอายุการปักแจกันของดอกเบญจมาศได้ ดอกเบญจมาศมีอายุการปักแจกันเฉลี่ยเพียงแค่ 5 – 8 วัน เท่านั้น ซึ่งให้ผลไม่แตกต่างจากการปักแจกันในน้ำกลั่น คือ 8 วัน แต่การใช้สารละลาย ไฮเตอร์ 1% ร่วมกับ 8 – HQS300 ppm  สามารถลดการเข้าทำลายของเชื้อจุลินทรีย์ได้ โดยมีการเน่า หรือการเกิดสีเหลืองของโคนก้านดอกน้อยที่สุดคือ 0.05 ซม. และมีอายุการปักแจกันเฉลี่ยปานกลางคือ 7 วัน

 



อัตราปุ๋ยเคมีและปูนขาวต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของถั่วพุ่มเมล็ดดำ อุบลราชธานี (cv. CP 4-2-3-1)
ผู้วิจัย นายสิทธิศานต์ หาเนาสุข | ปีที่พิมพ์ 2558 | อ่าน 88703 ครั้ง ดาวน์โหลด 12 ครั้ง

บทคัดย่อ

 

 

เรื่อง                  อัตราปุ๋ยเคมีและปูนขาวต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของถั่วพุ่มเมล็ดดำ 

                       อุบลราชธานี (cv. CP 4-2-3-1)

                          Chemical Fertilizer and Lime Rates on Growth and Yield of        

                          Ubonratchathani Black Grain Cowpea (cv. CP 4-2-3-1)

โดย                  นายสิทธิศานต์   หาเนาสุข

ชื่อปริญญา           วิทยาศาสตรบัณฑิต(เกษตรศาสตร์)

ปีการศึกษา           2558

อาจารย์ที่ปรึกษา    อาจารย์โดม  หาญพิชิตวิทยา

  

    ศึกษาอัตราของปุ๋ยเคมีและปูนขาวต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตถั่วพุ่มเมล็ดดำพันธุ์อุบลราชธานี โดยวางแผนการทดลองแบบ Randomize Complete Block Design (RCBD) ประกอบไปด้วย 5 กลุ่มทดลองดังนี้ 1. ไม่ใส่ปุ๋ย 2. ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 15 กิโลกรัมต่อไร่     3. ปูนขาว 400 กิโลกรัมต่อไร่และปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 15 กิโลกรัมต่อไร่ 4. ปูนขาว 400 กิโลกรัมต่อไร่และปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 15 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง 5. ปูนขาว 400 กิโลกรัมต่อไร่และปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ จำนวน 3 ซ้ำ พบว่าการใส่ปูนขาว 400 กิโลกรัมต่อไร่และปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ (กลุ่มทดลองที่ 5) มีความเหมาะสมมากที่สุด ต้นถั่วพุ่มดูดสารอาหารไปใช้ในการเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจาก       มีความสูงเฉลี่ยของต้น น้ำหนักผลผลิตมวลชีวภาพ จำนวนฝักต่อต้น จำนวนเมล็ดต่อฝักและน้ำหนักผลผลิตเมล็ดรวมเฉลี่ยมากที่สุดคือ 64 เซนติเมตร 795 กิโลกรัมต่อไร่ 10 ฝักต่อต้น 17 เมล็ดต่อฝักและ 300 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ รองลงมาคือปูนขาว 400 กิโลกรัมต่อไร่และปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 15 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง (กลุ่มทดลองที่ 4) มีค่าดัชนีตัวชี้วัดทุกค่าปานกลาง นอกจากนี้การใส่ปุ๋ยในทุกกลุ่มทดลองให้ค่าแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่งกับกลุ่มทดลองที่ไม่ใส่ปุ๋ยอย่างชัดเจน ยกเว้น ค่าเปอร์เซ็นต์การกะเทาะและดัชนีการเก็บเกี่ยวที่มีค่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ มีค่าอยู่ระหว่าง 72-78 เปอร์เซ็นต์ และ 0.36-0.38 ตามลำดับ ดังนั้นการใส่ปูนขาวในการปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างของดินเมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี จะส่งเสริมการปลดปล่อยธาตุอาหารให้พืชนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น


เว็บพนันอันดับ1 HUC99 เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์



ความเข้มข้นของกรดซัลฟิวริกต่อการทาลายการพักตัวของเมล็ดกล้วยพัด
ผู้วิจัย ณัฐวุฒิ กรงาม | ปีที่พิมพ์ 2557 | อ่าน 88958 ครั้ง ดาวน์โหลด 33 ครั้ง

บทคัดย่อ
เรื่อง ความเข้มข้นของกรดซัลฟิวริกต่อการทาลายการพักตัวของเมล็ดกล้วยพัด
Concentration of Sulfuric Acid on Dormancy Breaking of
Traveller’s Palm Seed
โดย นายณัฐวุฒิ กรงาม
ชื่อปริญญา วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกษตรศาสตร์)
ปีการศึกษา 2557
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ ดร. สุจิตรา สืบนุการณ์
ศึกษาความเข้มข้นของกรดซัลฟิวริกต่อการทาลายการพักตัวของเมล็ดกล้วยพัด โดยวางแผนการทดลองแบบ 3X5 Factorial in Completely Randomized Design ประกอบด้วย 15 กลุ่มทดลอง กลุ่มทดลองละ 2 ซ้าๆ ละ 50 เมล็ด เปรียบเทียบกับชุดควบคุม เป็นระยะเวลา 30 วัน ผลการทดลอง พบว่า การใช้กรดซัลฟิวริกความเข้มข้น 75% นาน 6 นาที มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีเปอร์เซ็นต์การงอกสูงที่สุด 70 เปอร์เซ็นต์ อัตราเร็วเฉลี่ยในการงอก 7 วัน เมล็ดมีพัฒนาการเป็นต้นกล้ารวดเร็วกว่ากลุ่มทดลองอื่นๆ มีเปอร์เซ็นต์เมล็ดแข็ง และเมล็ดตายเท่ากับ 13 และ 17% ตามลาดับ ในขณะที่ความยาวราก ความสูงต้นกล้า และความสูงต้นกล้ารวมรากเฉลี่ย มีค่าปานกลาง คือ 4.55 4.45 และ 8.95 เซนติเมตร ตามลาดับ รองลงมา คือ การใช้กรดซัลฟิวริกความเข้มข้น 75% นาน 8 นาที มีอัตราเร็วเฉลี่ยในการงอก 7 วัน เปอร์เซ็นต์การงอก เปอร์เซ็นต์เมล็ดแข็งและเปอร์เซ็นต์เมล็ดตายเฉลี่ยปานกลาง คือ มีค่าเท่ากับ 61 9 และ 30% ตามลาดับ ความสูงเฉลี่ยของต้นกล้า และความสูงเฉลี่ยของต้นกล้ารวมราก ไม่แตกต่างทางสถิติกับการแช่กรดซัลฟิวริกความเข้มข้น 75% นาน 6 นาที คือ มีค่าเท่ากับ 4.70 และ 9.40 เซนติเมตร ส่วนความยาวรากเฉลี่ย มีค่าเท่ากับ 4.70 เซนติเมตร สาหรับความเข้มข้นและระยะเวลาในการแช่กรดซัลฟิวริกในการทาลายการพักตัวของเมล็ดกล้วยพัดที่ไม่แนะนาให้ใช้ คือ กรดซัลฟิวริกความเข้มข้น 50% นาน 2 นาที เนื่องจากไม่เกิดการงอกของเมล็ดตลอดระยะเวลาทาการทดลอง
คาสาคัญ เมล็ดกล้วยพัด กรดซัลฟิวริก การทาลายการพักตัว



การยืดอายุการเก็บรักษาพริกขี้หนูพันธุ์ซุปเปอร์ฮอทด้วยการจุ่มน้้าร้อนร่วมกับชนิดบรรจุภัณฑ์
ผู้วิจัย ทักษ์ดนัย ขันค้า | ปีที่พิมพ์ 2557 | อ่าน 88461 ครั้ง ดาวน์โหลด 14 ครั้ง

บทคัดย่อ
เรื่อง การยืดอายุการเก็บรักษาพริกขี้หนูพันธุ์ซุปเปอร์ฮอทด้วยการจุ่มน้้าร้อนร่วมกับชนิดบรรจุภัณฑ์
Prolonging of Storability of Bird Chilli (cv. Superhot) with Hot Water Dip Combined with Packaging
โดย นายทักษ์ดนัย ขันค้า
ชื่อปริญญา วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกษตรศาสตร์)
ปีการศึกษา 2557
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ ดร.วิรญา ครองยุติ
การศึกษาผลของการจุ่มน้้าร้อนร่วมกับชนิดบรรจุภัณฑ์ต่อคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผลพริกขี้หนูพันธุ์ซุปเปอร์ฮอทในระยะผลสุก โดยจุ่มน้้าร้อนที่อุณหภูมิ 45 50 และ 55 องศาเซลเซียส นาน 4 นาที เปรียบเทียบกับการจุ่มในน้้ากลั่นที่อุณหภูมิห้อง (ชุดควบคุม) และบรรจุในถุงพลาสติกชนิดโพลีเอทธิลีน (Polyethylene; PE) และถุงพลาสติกโพลีเอทธิลีน ผสมสารเติมแต่งบางชนิด (ถุง Active) และน้าไปเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 8 องศาเซลเซียส จนหมดอายุการเก็บรักษา พบว่าพริกขี้หนูพันธุ์ซุปเปอร์ฮอทในระยะผลสุกที่ผ่านการจุ่มน้้าร้อนอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส นาน 4 นาที ร่วมกับการบรรจุในถุงพลาสติกโพลีเอทธิลีนผสมสารเติมแต่งบางชนิด (ถุง Active) สามารถลดเปอร์เซ็นต์การสูญเสียน้้าหนักสด เปอร์เซ็นต์การเสียหายของผลพริก และมีอายุการเก็บรักษายาวนานที่สุด คือ 16 วัน แต่ไม่แตกต่างจากชุดควบคุม แต่จากการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าการผสมผสานระหว่างวิธีการการจุ่มน้้าร้อนร่วมกับชนิดบรรจุภัณฑ์ สามารถรักษาคุณภาพและลดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของพริกขี้หนูพันธุ์ซุปเปอร์ฮอทได้ แต่ไม่สามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้ยาวนานกว่าชุดควบคุม
คาสาคัญ การจุ่มน้้าร้อน บรรจุภัณฑ์ พริกขี้หนูพันธุ์ซุปเปอร์ฮอท


เข้าสู่ระบบ