งานวิจัยที่มีผู้เข้าดูมากที่สุด

ชื่อเรื่อง ประเภทงานวิจัย ปีที่พิมพ์ อ่าน รายละเอียด
การเปรียบเทียบผลของการใช้กรดซิตริก (Citric Acid) และสารละลาย เกลือแกง (Sodium chloride) ที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาสีน้าตาลในแอปเปิลตัดแต่ง งานวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร 2555
93130
อิทธิพลของการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยคอกต่อการให้ผลผลิตของดาวเรืองพันธุ์ ทองเฉลิม 5011 งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
93083
การใช้นํ้าหมักชีวภาพต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผักกาดหอมเรดโอ๊คที่ปลูก ในระบบไฮโดรโปนิกส์ งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
92446

งานวิจัยที่มีผู้เข้าดาวน์โหลดมากที่สุด

ชื่อเรื่อง ประเภทงานวิจัย ปีที่พิมพ์ ดาวน์โหลด รายละเอียด
การเปรียบเทียบผลของการใช้กรดซิตริก (Citric Acid) และสารละลาย เกลือแกง (Sodium chloride) ที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาสีน้าตาลในแอปเปิลตัดแต่ง งานวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร 2555
356
อิทธิพลของการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยคอกต่อการให้ผลผลิตของดาวเรืองพันธุ์ ทองเฉลิม 5011 งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
570
การใช้นํ้าหมักชีวภาพต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผักกาดหอมเรดโอ๊คที่ปลูก ในระบบไฮโดรโปนิกส์ งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
345

ผลของปุ๋ยน้าจากแหนแดงต่อการเจริญเติบโตของหอมแบ่ง
ผู้วิจัย นางสาวปิยณี ดาราช | ปีที่พิมพ์ 2556 | อ่าน 91428 ครั้ง ดาวน์โหลด 187 ครั้ง

บทคัดย่อ
เรื่อง ผลของปุ๋ยน้าจากแหนแดงต่อการเจริญเติบโตของหอมแบ่ง
Effect Of Azolla Compost Fertilizer On Growth Of Onion
โดย นางสาวปิยณี ดาราช
ชื่อปริญญา วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกษตรศาสตร์)
ปีการศึกษา 2556
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ ดร. สังวาล สมบูรณ์
การศึกษาผลของปุ๋ยน้าจากแหนแดงต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตหอมแบ่งโดยวางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design (RCD) มี 6 กรรมวิธีได้แก่ กรรมวิธีที่ 1.ปุ๋ยคอก+ปุ๋ยแหนแดง (2,000 กก./ ไร่ + 50 ซีซี / น้า 20 ลิตร พ่นทุก 5 วัน) กรรมวิธีที่ 2. ปุ๋ยเคมี+ปุ๋ยแหนแดง (50 กก./ ไร่ + 50 ซีซี / น้า 20 ลิตร พ่นทุก 5 วัน) กรรมวิธีที่ 3. ปุ๋ยน้าแหนแดง อัตรา 50 ซีซี / น้า 20 ลิตรพ่น กรรมวิธีที่ 4. ปุ๋ยคอก อัตรา 4 ตัน / ไร่ กรรมวิธีที่ 5. ปุ๋ยเคมีสูตร 20 - 10 - 20 อัตรา 100 กก./ ไร่ กรรมวิธีที่ 6. ไม่ใส่ปุ๋ย (ควบคุม) วัดความสูงของหอมแบ่งในช่วงระยะการเจริญเติบโตทุกๆ สัปดาห์และน้าหนักสดเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต ผลการทดลองพบว่า หอมแบ่งที่กรรมวิธีแตกต่างกันมีผลทาให้จานวนผลผลิตที่ได้แตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสาคัญยิ่ง ส่วนจานวนหัวกลีบที่แตกกอพบว่า ที่กรรมวิธีปลูกแตกต่างกันไม่มีผลทาให้จานวนหัวกลีบที่แตกกอของหอมแบ่งแตกต่างกัน น้าหนักผลเฉลี่ยและน้าหนักสดเมื่อสิ้นสุดการทดลองพบว่า กรรมวิธีที่ 2. ปุ๋ยเคมี+ปุ๋ยแหนแดง (50 กก./ ไร่ + 50 ซีซี / น้า 20 ลิตร พ่นทุก 5 วัน) ส่งผลให้หอมแบ่งมีการเจริญเติบโต และ ให้ผลผลิตมากที่สุด



ผลของการแช่เมล็ดในกรดซาลิไซลิกต่อการงอกของเมล็ดและ การเจริญเติบโตของต้นกล้าข้าวโพดหวาน (ลูกผสมท๊อปสวีท 1320) ภายใต้สภาวะแห้งแล้ง
ผู้วิจัย ศุภชัย ศรีสุวรรณ | ปีที่พิมพ์ 2557 | อ่าน 90020 ครั้ง ดาวน์โหลด 61 ครั้ง

บทคัดย่อ
เรื่อง ผลของการแช่เมล็ดในกรดซาลิไซลิกต่อการงอกของเมล็ดและ การเจริญเติบโตของต้นกล้าข้าวโพดหวาน (ลูกผสมท๊อปสวีท 1320) ภายใต้สภาวะแห้งแล้ง Effect of Seed Priming with Salicylic Acid on Seed Germination and Seedling Growth of Sweet Corn (Zea mays cv. Top sweet 1320) Under Drought Stress โดย นายศุภชัย ศรีสุวรรณ
ชื่อปริญญา วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) ภาคเรียนที่ 2557 อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ ดร.วิรญา ครองยุติ ศึกษาผลของการแช่เมล็ดในกรดซาลิไซลิกต่อการงอกของเมล็ด และการเจริญเติบโตของต้นกล้าข้าวโพดหวาน (ลูกผสมท๊อปสวีท 1320) ภายใต้สภาวะแห้งแล้ง การทดลองนี้แบ่งเป็น 2 การทดลอง คือ การทดลองที่ 1 ศึกษาความเข้มข้นของกรดซาลิไซลิกต่อการงอกและความยาวรากของเมล็ดหลังเพาะที่ความเข้มข้น 0 0.25 0.5 0.75 และ 1 มิลลิโมลาร์ ผลการทดลองพบว่า เมล็ดที่แช่ในสารในสารละลายกรดซาลิไซลิกความเข้มข้น 0.25 มิลลิโมลาร์ มีเปอร์เซ็นต์การงอกและ ความยาวรากเฉลี่ยมากที่สุด คือ 62.67 เปอร์เซ็นต์ และ 12.59 เซนติเมตร ตามลาดับ และการทดลองที่ 2 ศึกษาผลของการแช่เมล็ดในกรดซาลิไซลิกต่อการงอกของต้นกล้าในสภาวะแห้งแล้ง โดยงดให้น้าเป็นเวลา 7 วัน เมื่อปลูกครบ 2 สัปดาห์ พบว่า การแช่เมล็ดในกรดซาลิไซลิก และอยู่ในสภาวะแล้ง ต้นกล้ามีความสูงลาต้นและรากสด น้าหนักสดลาต้นและราก น้าหนักแห้งลาต้นและราก มากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับชุดควบคุมและชุดที่แช่เมล็ดในน้ากลั่นและอยู่ในสภาวะแล้ง นอกจากนี้การแช่เมล็ดในกรดซาลิไซลิก และอยู่ในสภาวะแล้งมีอัตราส่วนน้าหนักสดรากต่อลาต้นแตกต่าง จากชุดควบคุม คือ 0.59 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการแช่ในกรดซาลิไซลิกก่อนการปลูกช่วยกระตุ้นให้พืช มีการปรับตัวและเจริญเติบโตในสภาวะแห้งแล้งได้ จากการทดลองนี้ชี้ให้เห็นว่าเมล็ดที่ผ่านการแช่ในสารละลายกรดซาลิไซลิก ความเข้มข้น 0.25 มิลลิโมลาร์ ทาให้ต้นกล้าข้าวโพดหวาน มีความสามรถในการทนแล้งได้ดีที่สุด
คาสาคัญ กรดซาลิไซลิก ข้าวโพดหวานลูกผสมท๊อปสวีท 1320 สภาวะแห้งแล้ง


สล็อต สล็อตออนไลน์ thaicasinobin



ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ต่อการเจริญเติบโต และผลผลิต ข้าวขาวดอกมะลิ105ในพื้นที่อาเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี
ผู้วิจัย นุชรัตน์ ปูกะธรรม | ปีที่พิมพ์ 2557 | อ่าน 88872 ครั้ง ดาวน์โหลด 3 ครั้ง

บทคัดย่อ
เรื่อง ผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ต่อการเจริญเติบโต และผลผลิต
ข้าวขาวดอกมะลิ105ในพื้นที่อาเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี
Effect of Chemical and Organic Fertilizer Utilization on
Growth and Yield of KDML 105 Rice in Khemmarat District
Ubonratchathani Province
โดย นางสาวนุชรัตน์ ปูกะธรรม
ชื่อปริญญา วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกษตรศาสตร์)
ปีการศึกษา 2557
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์โดม หาญพิชิตวิทยา
ศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตของข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดยทาการทดลองในแปลงเกษตรกรตาบลหนองสิม อาเภอเขมราฐจังหวัดอุบลราชธานีวางแผนการทดลองแบบ Randomize Complete Block Design (RCBD) ประกอบด้วย 5 กลุ่มทดลอง กลุ่มทดลองละ 3 ซ้า ผลการทดลองพบว่าการใส่ปุ๋ยคอกมูลวัว อัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่ร่วม กับปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 อัตรา 14 กิโลกรัมต่อไร่และ สูตร 46-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อไร่ช่วงข้าวอายุ 25 วันหลังหว่าน และครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ย สูตร 46-0-0 อัตรา 7 กิโลกรัมต่อไร่ ระยะกาเนิดช่อดอกให้ความสูงเฉลี่ยของต้นข้าวเป็น 109 เซนติเมตร จานวนรวง 201 รวงต่อตารางเมตรน้าหนักผลผลิตเฉลี่ยของข้าว 269 กิโลกรัมต่อไร่ มีค่าสูงที่สุด และมีความแตกต่างทางสถิติ (p=0.01) แต่ไม่พบความแตกต่างทางสถิติ ในค่าน้าหนักเมล็ดข้าว 100 เมล็ด และค่าดัชนีการเก็บเกี่ยว รองลงมา คือปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่แบ่งใส่ 2 ครั้งเท่ากัน และปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 อัตรา 14 กิโลกรัมต่อไร่ และสูตร 46-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อไร่ ช่วงข้าวอายุ 25 วันหลังหว่านข้าว และครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 7 กิโลกรัมต่อไร่ ระยะกาเนิดช่อดอก
คาสาคัญ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยคอกมูลวัว



ผลของการใช้ทางใบปาล์มน้้ามันอัดเม็ดในสูตรอาหารข้นต่อปริมาณน้้านมและองค์ประกอบทางเคมีของน้้านมในโครีดนม
ผู้วิจัย นายธนพล สีสุภา และคณะ | ปีที่พิมพ์ 2559 | อ่าน 87815 ครั้ง ดาวน์โหลด 7 ครั้ง

บทคัดย่อ
การทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้ทางใบปาล์มน้้ามันอัดเม็ดที่ระดับ 0, 25, 50 , และ75 เปอร์เซ็นต์ในสูตรอาหารข้นต่อปริมาณน้้านมและองค์ประกอบทางเคมีของน้้านมในโครีดนมที่ โดยใช้โครีดนมพันธุ์โฮสไตล์ฟรีเชี่ยนเพศเมีย จ้านวน 4 ตัว มีน้้าหนักเฉลี่ย 400 ± 500 กก. จัดโคเข้าทดลองตามแผนการทดลองแบบ 4x4 จัตุรัสลาติน ให้โคได้รับอาหารข้นในอัตราส่วนอาหารข้นต่อปริมาณน้้านม 1:2 และใช้ฟางข้าวหมักยูเรีย (5% ยูเรีย) เป็นอาหารหยาบโดยให้กินแบบเต็มที่ ผลการทดลองพบว่าการใช้ทางใบปาล์มน้้ามันอัดเม็ดในสูตรอาหารข้นส้าหรับโคนรีดนมท้าให้ปริมาณน้้านม และองค์ประกอบทางเคมีของน้้านม ได้แก่ โปรตีน ไขมัน น้้า ของแข็งที่ไม่รวมไขมัน ความหนาแน่นของน้้านม ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (P>0.05) แต่การใช้ทางใบปาล์มน้้ามันอัดเม็ดที่ 25 เปอร์เซ็นต์ในสูตรอาหารข้นมีแนวโน้มท้าให้โคนมมีปริมาณน้้านมสูง
ค้าส้าคัญ: ทางใบปาล์มน้้ามันอัดเม็ด, ปริมาณน้้านม, องค์ประกอบทางเคมีของน้้านม, โครีดนม
ABSTRACT
This experiment was to study the effects of oil palm fronds pellet at 0, 25, 50 and 75% in concentrate on milk yield and milk composition in lactating dairy cows. Four, Holstein-Friesian cross bred cows with 400 + 500 kg body weight, were randomly assigned according to a 4x4 Latin Square Design. Cows were fed concentrate, at a ratio of concentrate to milk yield of 1:2, and urea treated rice straw (5% urea) were used as a roughage source ad libitum. The results showed that feeding cows with oil palm fronds pellet has no effect on milk yield and milk composition in term of protein, fat, water, solids not fat and density (P> 0.05). However, using oil palm fronds pellet at 25% in concentrate tend to increased milk yield.
Keywords: oil palm fronds pellet, milk yield, milk composition, lactating dairy cows


เข้าสู่ระบบ