งานวิจัยที่มีผู้เข้าดูมากที่สุด

ชื่อเรื่อง ประเภทงานวิจัย ปีที่พิมพ์ อ่าน รายละเอียด
การเปรียบเทียบผลของการใช้กรดซิตริก (Citric Acid) และสารละลาย เกลือแกง (Sodium chloride) ที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาสีน้าตาลในแอปเปิลตัดแต่ง งานวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร 2555
96227
อิทธิพลของการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยคอกต่อการให้ผลผลิตของดาวเรืองพันธุ์ ทองเฉลิม 5011 งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
96188
ประสิทธิภาพของสารจากพืชในการควบคุมมอดแป้ง งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
95770

งานวิจัยที่มีผู้เข้าดาวน์โหลดมากที่สุด

ชื่อเรื่อง ประเภทงานวิจัย ปีที่พิมพ์ ดาวน์โหลด รายละเอียด
การเปรียบเทียบผลของการใช้กรดซิตริก (Citric Acid) และสารละลาย เกลือแกง (Sodium chloride) ที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาสีน้าตาลในแอปเปิลตัดแต่ง งานวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร 2555
356
อิทธิพลของการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยคอกต่อการให้ผลผลิตของดาวเรืองพันธุ์ ทองเฉลิม 5011 งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
570
ประสิทธิภาพของสารจากพืชในการควบคุมมอดแป้ง งานวิจัยสาขาเกษตรศาสตร์ 2556
197

ประสิทธิภาพของสารจากพืชในการควบคุมมอดแป้ง
ผู้วิจัย อิทธิพล สุขเกิด | ปีที่พิมพ์ 2556 | อ่าน 95770 ครั้ง ดาวน์โหลด 197 ครั้ง

ศึกษาประสิทธิภาพของสารจากพืชในการควบคุมมอดแป้ง โดยวางแผนการทดลองแบบ CRD มี 11 กลุ่มทดลอง จำนวน 5 ซํ้า มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพสารจากพืชในการควบคุมมอดแป้งของสมุนไพรทั้งหมด 10 ชนิดได้แก่ เตยหอม มะกรูด พริกไทย อบเชย ขิง ตะไคร้ หนอนตายหยาก ขมิ้น ดีปลีและพริก ผลการทดลองพบว่า พริกไทยทำให้มอดแป้งตายได้ดีที่สุดคือ 100% รองลงมาคือดีปลี พริก ตะไคร้ ขิง ขมิ้น อบเชย ใบมะกรูด และเตยหอม ทำให้มอดแป้งตายได้เท่ากับ 98%, 92%, 30%, 28%, 22%, 18%, 14% และ 14% ตามลำดับ และหนอนตายหยากทำให้มอดแป้งตายน้อยที่สุดคือ 10% ดังนั้นพืชสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมมอดแป้ง คือ พริกไทยซึ่งมีประสิทธิภาพควบคุมมอดแป้งได้ 100% และจะมีปฏิกิริยาในการตอบสนองต่อการตายของมอดแป้งในช่วงชั่วโมงที่ 96 ทำให้มีผลวัดค่าและเป็นตัวชี้วัดได้ว่าสามารถกำจัดมอดแป้งได้ดีกว่าสมุนไพรชนิดอื่น



ผลของสารไคโตซานต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของผักกาดเขียว กวางตุ้งที่ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์
ผู้วิจัย เมธาวรรณ ถันทอง | ปีที่พิมพ์ 2556 | อ่าน 92694 ครั้ง ดาวน์โหลด 102 ครั้ง

ผลของสารไคโตซานต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของผักกาดเขียว

กวางตุ้งที่ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์

Effects of Chitosan on Growth and Yield of Chinese Cabbage-PAI

TSAI in Hydroponics System

โดย                        นางสาวเมธาวรรณ ถันทอง

ชื่อปริญญา     วิทยาศาสตรบัณฑิต(เกษตรศาสตร์)

ปีการศึกษา  2556

อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ ดร. สังวาล  สมบูรณ์

 

            ศึกษาผลของสารไคโตซานต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของผักกาดเขียวกวางตุ้งที่ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์โดยวางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design (CRD) ประกอบด้วย 6 กลุ่มทดลอง กลุ่มทดลองละ 6 ซ้ำๆละ 25 ต้น  รวมจำนวนหน่วยทดลองทั้งหมด 36 หน่วยทดลอง  เป็นระยะเวลา 35 วัน ผลการทดลอง พบว่าการพ่นสารไคโตซานความเข้มข้น 0.08% มีผลทำให้การเจริญเติบโตของผักกาดเขียวกวางตุ้งเพิ่มขึ้น ต่างจากชุดควบคุมที่ใช้สารละลายมาตรฐานอนินทรีย์เพียงอย่างเดียว ทั้งในด้านความสูง ความยาวรากจำนวนใบและน้ำหนักสดต้น  รองลงมาคือ การใช้สารไคโตซานความเข้มข้น 0.06%ไม่พ่นสารไคโตซาน พ่นสารไคโตซานความเข้มข้น 0.04%  0.02% และ 0.01% ตามลำดับดังนั้น ระดับความเข้มข้นสารไคโตซานที่เหมาะสมที่สุดในการเพาะปลูกผักกาดเขียวกวางตุ้ง คือ ไคโตซานความเข้มข้น 0.08%

 



ผลของการใช้กากปาล์มน้ำมันอัดเม็ดในสูตรอาหารข้น ต่อปริมาณน้ำนมและองค์ประกอบทางเคมีของน้ำนมในโครีดนม
ผู้วิจัย ศิริชัย เที่ยงธรรมและคณะ | ปีที่พิมพ์ 2557 | อ่าน 90763 ครั้ง ดาวน์โหลด 3 ครั้ง



ประสิทธิภาพเหยื่อล่อหอยเชอรี่จากพืช
ผู้วิจัย พรพิศ สมพร | ปีที่พิมพ์ 2556 | อ่าน 91506 ครั้ง ดาวน์โหลด 11 ครั้ง

ประสิทธิภาพเหยื่อล่อหอยเชอรี่จากพืช

Efficacy of Golden Apple Snail Bait from Plants

โดย                          นางสาวพรพิศ  สมพร

ชื่อปริญญา                วิทยาศาสตรบัณฑิต ( เกษตรศาสตร์ )

ปีการศึกษา         2556

อาจารย์ที่ปรึกษา         อาจารย์  ดร. สังวาล  สมบูรณ์

 

                   ศึกษาประสิทธิภาพในการใช้พืชชนิดต่างๆ เป็นเหยื่อล่อหอยเชอรี่  เพื่อล่อให้หอยเชอรี่กินเหยื่อมากขึ้นหรือล่อให้มารวมกลุ่มกันจำนวนมากและง่ายต่อการกำจัด  วางแผนการทดลองแบบ  Completely  Randomized  Design  (CRD) โดยใช้ใบผักบุ้งใบมันสำปะหลัง ใบมันเทศ และใบมะละกอเปรียบเทียบกับเหยื่อล่อสำเร็จรูปเป็นลักษณะให้หอยเชอรี่เลือกอาหาร (choice test)  ผลการทดลองพบว่าเมื่อถัวเฉลี่ยระยะเวลา  12  ชั่วโมง  เหยื่อล่อใบมันเทศมีประสิทธิภาพดีที่สุด  สามารถล่อหอยเชอรี่ให้มารวมกลุ่มกันได้มากที่สุด  เฉลี่ยคือ  39.31 %  รองลงมาได้แก่  เหยื่อล่ออาหารปลาดุก   ใบผักบุ้ง    ใบมันสำปะหลัง  และใบมะละกอ  มีค่าเท่ากับ   33.49  33.46   28.24  และ  20.95 %  ตามลำดับ  แต่เมื่อวิเคราะห์เป็นรายชั่วโมงพบว่า  การใช้เหยื่อล่อจากใบมันเทศ  จะมีประสิทธิภาพดีที่สุด  ภายใน  7  ชั่วโมงแรก  รองลงมาคือ  อาหารปลาดุก   ใบผักบุ้ง  และใบมันสำปะหลัง  ในขณะที่เหยื่อล่อใบมะละกอ  อาจต้องใช้ระยะเวลานานขึ้นประมาณชั่วโมงที่  6  ถึง  10  จึงจะมีประสิทธิภาพดีที่สุด  ดังนั้นถ้าต้องการประสิทธิภาพในการเป็นเหยื่อล่อหอยเชอรี่ให้มารวมตัวกัน เพื่อง่ายต่อการป้องกันกำจัดหรือผสมกับเหยื่อพิษภายใน    6  ชั่วโมงแรก  ควรเลือกใช้เหยื่อล่อใบมันเทศ  แต่ถ้า  8   ชั่วโมง  ขึ้นไป  ควรเลือกใช้เหยื่อล่อใบมะละกอ  จึงจะได้ผลดีที่สุด

 


เข้าสู่ระบบ